TOYOTA Spade

TOYOTA Spade

ลงตัวด้วยดีไซน์  สะดวกสบายยามใช้งาน

                รูปลักษณ์ภายนอกของ  Spade  ถูกดีไซน์ขึ้นภายใต้มิติขนาดตัว  ยาว/กว้าง/สูง เท่ากับ 3,995/1,695/1,690  มม.  ระยะฐานล้อ  2,600  มม.  สะกดทุกสายตาด้วยความสปอร์ตที่โดนในในแบบไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติม  ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟล็คเตอร์รูปทรงแปลกตาแต่กลมกลืนกับเส้นสายอื่นๆ ได้ดีและยังช่วยให้ด้านหน้าดูเร้าใจมากขึ้น  บานฝากระโปรงหน้าลาดเทลู่ลมช่วยแหวกอากาศกระจังหน้าเจาะช่องขนาดเล็กแล้วแปะตะแกรงซี่ถี่พร้อมโลโก้ประจำค่าย  กันชนหน้าออกแบบให้ดูล้ำสมัยด้วยการเจาะช่องดักอากาศแถวยาวขนาดเล็กที่ด้านบน  ส่วนด้านล่างเจาะช่องแถวยาวขนาดใหญ่ช่วยเสริมการดักอากาศเข้าห้องเครื่องยนต์และระบายความร้อนได้อย่างพอเพียงแม้การจราจรติดขัด  เส้นสายด้านข้างฝั่งขวามือดูลงตัวเหมือนรถทั่วไป  แต่ฝั่งซ้ายมือถูกออกแบใหม่ให้ผู้โดยสารทั้งตอนหน้าและตอนหลังเข้าออกได้สะดวกยิ่งขึ้นกับประตูสไลด์ดูแปลกตาและโดดเด่นไม่เหมือนใคร  โป่งล้อทั้งสี่ถูกออกแบบให้นูนสูงขึ้นช่วยเพิ่มความอวบให้กับตัวรถ  ด้านท้ายสะดุดตากับไฟท้ายทรงเหลี่ยมก้อนโต  ปลายหลังคาติดไฟเบรกดวงที่สามมาพร้อม  ปิดท้ายด้วยกันชนทรงสวยฝังไฟตัดหมอกหลังทรงสี่เหลี่ยมวางแนวตั้งช่วยเสริมความสปอร์ตอย่างลงตัว

                ภายในห้องโดยสารออกแบบตกแต่งสวยงามพร้อมความโดดเด่นด้วยการเล่นสีสันสดใสตัดกันอย่างลงตัว  แด๊ซบอร์ดหน้าใช้เส้นเหลี่ยมเป็นองค์ประกอบหลักพร้อมการจัดวางต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ  มาตรวัดความเร็วทรงกลมถูกติดตั้งไว้เกือบกึ่งกลางคอนโซล  ด้านข้างมาตรวัดความเร็วเป็นทริปมิเตอร์  แสดงค่าอื่นๆ  อย่างละเอียดแด๊ซบอร์ดบริเวณฝั่งผู้ขับขี่ถูกเจาะเป็นช่องเก็บของที่จำเป็น  พวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่นสองก้านรูปทรงน่ารักพอควร  คอนโซลกลางด้านบนเป็นชุดขับกล่อมเคียงข้างด้วยช่องแอร์ทรงกลม  ขยับมาจะพบกับคอนโซลเกียร์อัตโนมัติพร้อมด้วยปุ่มปรับระบบปรับอากาศที่มีให้เลือกทั้งแบบมือหมุนและแบบดิจิตอล  สำหรับเบาะนั่งคู่หน้าขนาดกำลังพอดี  ฝั่งผู้ขับขี่มีที่พักแขนมาให้  ด้านหลังเบาะผู้โดยสารตอนหน้ามีถาดไว้รองรับการใช้งานอเนกประสงค์  ส่วนเบาะแถวหลังก็กว้างขวางสะดวกสบาย  ทุกตำแหน่งถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสีทูโทน  ซึ่งทั้งหมดดูลงตัวและน่าสัมผัสเกินกว่ารถยนต์พิกัดเดียวกัน

                ทางด้านเครื่องยนต์มอบหมายให้รหัส  1 NZ-FE  แบบ DOHC  4 สูบ  ความกว้างกระบอกสูบ x ช่วงชักเท่ากับ  75.0 x 84.7  มม.  ปริมาตรความจุเครื่องยนต์  1,496  ซีซี.  ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้ออัตราส่วนกำลังอัด 11.0  สร้างกำลังออกมาใช้งานได้ทั้งหมด  80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า)  ที่ 6,000 รอบ/นาที  แรงบิดสูงสุด  136  นิวตัน-เมตร ที่  4,800  รอบ/นาที  ส่วนในรุ่น 4 WD  อัตราส่วนกำลังอัด 10.5  ผลิตเรี่ยวแรงออกมาใช้งานได้ถึง  76  กิโลวัตต์ (103 แรงม้า)  ที่  6,000  รอบ/นาที  พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด  132  นิวตัน-เมตร ที่ 4,400  รอบ/นาที  ส่งกำลังด้วยเกียร์  Super  CXT-I  ลงสู่ล้อขนาด  15 x 5 นิ้ว  รัดด้วยยาง  175/65 R 17 เพียงเท่านี้ Spade ก็เป็นรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวันที่จะทำให้คุณประหยัดเชื้อเพลิงในเมืองหลวงและตอบสนองการเดินทางท่องเที่ยวโดยไม่เหนื่อยจากการเค้นกำลังของเครื่องยนต์จนเกินไป

ข้อมูลและภาพประกอบจาก  www.toyota.co.jp

CHEVROLET Trax ไซส์เล็กก็ลุยได้นะ

ในกลุ่มรถอเนกประสงค์แบรนด์  CHEVROLET  เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ลูกค้าให้ความสนใจ  ไม่ต้องเป็นด้วยประสิทธิภาพการใช้งานที่คุ้มค่า  บวกกับดีไซน์ที่ทันสมัยเปลี่ยนไปตามยุค  ตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย  ซึ่งในบางครั้งนี้เป็นการเปิดตัวรถ SUV ขนาดเล็ก โดยใช้ชื่อว่า CHEVROLET  Trax  ออกมาทำตลาดเคียงข้างรุ่นพี่อย่าง Captiva เผยโฉมครั้งแรกในโลกที่งานปารีสมอเตอร์โชว์เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

                CHEVROLET  ต่อยอดความสำเร็จในการทำตลาดรถอเนกประสงค์อย่างต่อเนื่อง  ผู้บริหารของค่ายกล่าวว่า  CHEVROLET  Trax  มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษในแบบฉบับของรถSUV ขนาดเล็ก  ล้ำสมัย รองรับทุกการใช้งาน  ประหยัดน้ำมันให้สมรรถนะการควบคุมเหมือนกับรถยนต์นั่งผสานกับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ  เหมาะสมที่จะเป็นรถยนต์ใช้งานทั่วไปและยังใช้ลุยเส้นทางอ๊อฟโรตได้อีกด้วย

                มิติตัวถังยาว  4,248 มม.ระยะฐานล้ออยู่ที่  2,555 มม. เส้นสายภายนอกทรงพลัง  ให้ความรู้สึกปราดเปรียวพร้อมจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเทียบชั้นกับรถหรู ได้สบาย โลโก้โบว์ไทสีทองถูกประทับโดเด่นอยู่บนกระจังหน้าแบบสองชั้นเอกลักษณ์เฉพาะ  ภายในห้องโดยสารเรียบหรูสะอาดตาครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก  รองรับผู้โดยสาร  5  ที่นั่ง มาตรวัดผสมผสานการแสดงผลแบบดิจิตอลและอะนาล็อกเข้าไว้ด้วยกัน  รองรับทุกการใช้งานด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระทั่งทั้งห้องโดยสารตามสไตล์รถอเนกประสงค์  โดยนอกจากเนื้อที่ท้ายรถที่มีความจุสูงถึง  358  ลิตแล้ว  ยังมีช่องเก็บของบริเวณเหนือคอนโซล  ด้านข้างคอนโซล  ใต้เบาะที่นั่ง รวมถึงช่องเก็บของใต้พื้นรถ  นอกจากนี้เบาะที่นั่งยังพับแบบแยกส่วนได้  60/40  อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้เบาะแบบ  8  ที่นั่งได้อีกด้วย

                ในด้านของเทคโนโลยีสำหรับการขับขี่  CHEVROLET  Trax  ติดตั้งระบบ Infotainment Chevrolet  MyLink  เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนแสดงผลผ่านหน้าจอสีและความละเอียดสูง  ระบบสัมผัสขนาด  7  นิ้ว  MyLink  จะรองรับระบบนำทางที่สามารถดาวน์โหลดได้ทางสมาร์ทโฟน (Navigation  App)  โดยจะคำนวณเส้นทางผ่านสมาร์ทโฟนก่อนแสดงผลผ่านหน้าจอสัมผัส 

TOYOTA ALPHARD รถยนต์ทรงครอบครัวส่งตรงจาก TOYOTA

สำหรับคุณผู้ชายหรือเหล่าผู้บริหารในบริษัทใหญ่ๆ กำลังมองหารถยนต์ทรงใหญ่ที่เหมาะสมที่จะใช้ในการให้คนในครอบครัวหรือคนในแผนกได้โดยสารเพื่อไปยังสถานที่ต่างๆอยู่หรือไม่ รถยนต์ประเภทที่เราจะแนะนำในต่อไปนี้ ไม่เชิงว่าเป็นรถตู้ แต่เป็นดีไซน์ที่ดูเรียบง่ายและดูเล็กลงมามากกว่ารถตู้ทั่วๆไป เราจึงอยากจะแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกับ TOYOTA ALPHARD รถยนต์สำหรับครอบครัวที่ดีที่สุด และกำลังมาแรงในเวลานี้ ที่สำคัญสามารถชมได้ที่โชว์รูมรถนำเข้า ศูนย์วัฒนธรรม

รถยนต์ TOYOTA  ALPHARD เป็นรถยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งตัวเครื่องรวมถึงดีไซน์ใหม่ทั้งหมด มีการประดับกระจังหน้ารถใหม่ ติดตั้งสเกิร์ตแบบใหม่รวมถึงกันชนที่ใช้วัสดุประเภทโครเมี่ยมเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิต ส่วนหลังคาด้านบนของตัวรถยังใช้หลังคาแบบ Twin Moon Roof ที่ซึ่งเป็นความสามารถในการเพิ่มระดับของแสงสว่างในตัวรถเมื่อถึงช่วงมืดค่ำนั่นเองครับ ประตูทั้งหมดเป็นประตูที่เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า ทางที่นั่งของฝั่งทางคนขับสามารถกดสั่งการให้ประตูเปิดปิดและล็อกได้ทั้งหมดอีกด้วย

อุปกรณ์ภายนอกอย่างเช่นล้อรถเป็นล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ขณะที่ด้านในของตัวรถ เป็นเบาะหนังทั้งหมด ขณะที่แผงคอนโซลใช้ธีมหลักเป็นธีมลายไม้สีดำเพื่อช่วยในเรื่องของความหรูหราให้กับภายในห้องโดยสาร เบาะที่นั่งเป็นเบาะที่สามารถปรับได้ด้วยระบบไฟฟ้า อีกทั้งยังมีที่วางแขนและมีที่รองขา รวมถึงยังมีที่พักเท้าให้พร้อมสำหรับผู้โดยสารอีกด้วย คุณถาพเยี่ยมเต็มตามแบบฉบับรถนำเข้ารถอิสระ 

กระจกมองหลังที่หน้ารถยังเป็นระบบกระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ ข้อดีของมันก็คือช่วยการสะท้อนของแสงไฟที่สะท้อนกลับมา ช่วยให้เรามองข้างหลังได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ อีกทั้งยังติดตั้งระบบฟอกอากาศแบบ นาโนอีที่จะช่วยยับยั้งการแพร่และการเกิดเชื้อโรคอีกด้วย การขับรถยนต์รุ่นนี้จึงปลอดภัยและทำให้สุขภาพไม่เสียอีกด้วยครับ

ระบบ Multimedia ของรถยนต์รุ่นนี้มีอยู่ครบถ้วนตั้งแต่ช่องต่อ USB ที่สามารถเสียบได้ทั้ง iPod หรือจะเป็นระบบ Bluetooth ที่มีประสิทธิภาพ หน้าจอเป็นหน้าจอสัมผัสแบบ LED  มีเครื่องเล่น DVD ที่สามารถดูได้ทั้งแผ่นภาพยนตร์ DVD , VCD และยังสามารถเล่นแผ่นซีดีเพลง , MP3 , WMA ได้อีกด้วยครับ รถยนต์รุ่นนี้มีให้เลือก 3 สีด้วยกันคือสีขาวมุก สีดำและสีเงิน มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3,239,000 บาท ใช้ระบบตัวเครื่องแบบ  CVT Sequential Shift ที่ประหยัดน้ำมันอย่างมากอีกด้วยครับ ใครที่ชอบที่จะใช้งานรถยนต์ประเภทรถที่สามารถโดยสารคนได้ทีละจำนวนเยอะๆล่ะก็ เราขอแนะนำให้ลองทำความรู้จักกับ TOYOTA ALPHARD รุ่นนี้ครับ

Mitsubishi Pajero รถในประเทศ แต่ได้รับความนิยมมาก

  ถ้าให้เอ่ย ถึงรถยนต์ Mitsubishi Pajero sport 

แน่นอนเลยว่าสิ่งที่จะทำให้เรานึกถึงก็คือ รถยนต์รูปร่างใหญ่โต มาพร้อมด้วยพลังการขับเคลื่อนที่สมบูรณ์แบบ ด้วยที่สุดแห่งสมรรณนะ โดดเด่นในทุกด้านของเจ้ารถยนต์คันนี้ทำให้เป็นที่หลงไหลของทุกคน Mitsubishi Pajero sport มาพร้อมกับ เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร V6 สูบ SOHC 24 วาล์ว 219 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที โดยมีแรงบิดเฉลี่ยสูงสุดที่ 281 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะของระบบวาล์วแปรผันMIVEC ที่ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ในรอบสูง โดยตอบสนองอัตราเร่งที่ฉับไวและประหยัดน้ำมัน เมื่อใช้ความเร็วในรอบต่ำเบนซิน 3.0 ลิตร V6 สูบ SOHC 24 วาล์ว 219 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 281 นิวตันเมตร ที่ 4,000รอบต่อนาที พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะของระบบวาล์วแปรผันMIVEC ที่ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องยนต์ในรอบสูง ตอบสนองอัตราเร่งที่ฉับไวและประหยัดน้ำมัน เมื่อใช้ความเร็วในรอบต่ำ และยังมีระบบเกียน์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECTS II พร้อม Sportronic โดยระบบเกียร์นี้จะสามารถจดจำทุกรูปแบบการขับขี่ จึงทำให้การตอบสนองในการเปลี่ยนเกียร์ดีขึ้น ทำให้อัตรากานเร่งดีขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น มีห้องโดยสารที่กว้างเหมาะสำหรับการเดินทางเป็นครอบครัว

                แต่รู้ไหมครับว่าในข้อดีที่แทบจะสมบูรณ์แบบของรถยนต์คันนี้ ด้วยแรงการเคลื่อนที่ที่ทรงพลังเช่นนี้ต้องแลกมาด้วยกับการเผาพลาญน้ำมันที่ค่อนข้างเยอะ แม้จะมีระบบช่วยประหยัดน้ำมันมากแล้วก็ตามทำให้คนส่วนใหญ่ที่นิยมหันมาติดแก๊ส กันมากขึ้น ซึ่งการติดแก๊สก็จะมีให้เลือกอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆก็คือ LPG และ NGV  และต่อมาครับในขั้นตอนของการติดตั้งแก๊สนั้นมีขั้นตอนดังนี้ครับ

-                   ขั้นตอนที่ 1 จะเป็นในส่วนการตรวจสอบทุกสิ่งภายในและภายนอกตัวรถ เช่น ตรวจสอบรอยขีดข่วน ตรวจสอบภายใน ตรวจสอบแอร์ และตรวจสอบเครื่องยนต์เพื่อให้ลูกค้ารับทราบถึงสภาพโดยรวมของรถก่อนทำการติดตั้ง

-                   ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนนี้ช่างรถยนต์จะทำการหาจุดที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้ง รวมทั้งตั้งอุปกรณ์พื้นฐานต่างๆเข้ากับตัวเครื่อง เช่น นำท่อมาเจาะรู ติดตั้งเหล็กรัดเข้าไว้ที่ปลายท่อ ต่อเข้ากับรางหัวฉีด นั่นเองครับ

-                   ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนนี้จะเป็นส่วนของช่างไฟฟ้าจำทำการหุ้มปลอกสายไฟต่างๆ ต่อสายไฟต่างๆที่จำเป็นต่อระบบแก๊สรถยนต์นั่นเอง

-                   ขั้นตอนที่ 4 ติดตั้งอุปกรณ์ติดตั้งก๊าซโดยช่างผู้ชำนาญการจะทำการติดตั้งอุปกรณ์ทุกๆอย่างที่จำเป็นต่อการติดตั้ง เช่น ติดตั้งถังแก๊ส เจาะรูท่อแก๊ส และเมื่อหลังทำการติดตั้งจะทำการทำความสะอาดให้เรียบร้อย

นี่เป็นขั้นตอนคร่าวๆของการติดตั้งแก๊สรถยนต์ครับ แต่รู้ไหมครับว่าตัวถังแก๊สนั่นมีหลากหลายรูปแบบมากโดยการติดตั้งแก๊สรถยนต์สำหรับ Mitsubishi Pajero sport คันนี้จะเหมาะกับตัวถังแก๊สแบบถังโดนัท การติดถังโดนัท 73 ลิตร นั้นทำให้วิ่งได้ถึง 400-450 กม./ถัง และยังไม่ได้ตัดคานยางอะไหล่ ซึ่งไม่กระทบกระเทือนกับระบบการทรงตัวของ Pajero sport ดังนั้นเมื่อเลือกที่จะทำการติดตั้งแก๊สแล้วก็ต้องดูว่าตัวถังแก๊สนั้นสร้างผลกระทบทางสมรรถภาพของรถหรือทำให้รถดูด้อยลงหรือป่าว และการเลือกติดตั้งแก๊สนั้นต้องเป็นร้านที่มีการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั่นนะครับ เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจของตัวคุณเองนะครับ

ML 250 รถครอบครัว อเนกประสงค์

ML 250

                เมอร์เซเดส-เบนซ์The new Viano ML 250 เป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวแบบ 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ทั้งภายในและภายนอก ตอบรับกับรูปแบบการใช้ชีวิตอันทันสมัย โดยมุ่งเน้นที่ความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ช่วยเติมเต็มความสุขให้กับวันทำงานและวันหยุดสุดสัปดาห์ เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานและพื้นที่ใช้สอยที่สอดคล้องกับทุกความต้องการได้อย่างลงตัว ภายในห้องโดยสารปลอดโปร่ง ทำให้รู้สึกได้ถึงความนุ่มสบายและผ่อนคลายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางใกล้หรือไกล สามารถปรับเปลี่ยนการจัดวางได้หลากหลายรูปแบบ เหนือระดับด้วยนวัตกรรมล้ำหน้า อาทิ ไฟหน้าแบบไบซีนอน (bi-xenon) ระบบเพิ่มความส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง (corner light) ไฟ daytime แบบ LED

                สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ซันรูฟแบบกระจกควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ประตูบานเลื่อนทั้งซ้าย-ขวา เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออกรถมากยิ่งขึ้นโดดเด่นด้วยระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบถุงลม พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิระดับอัตโนมัติที่ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล ด้วยสมรรถนะการยึดเกาะถนนอย่างมั่นคง ML 250 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตรที่ 1,600 - 2,400 รอบ/นาที อัตราเร่งจาก 0 - 100 กม./ชม. ภายในระยะเวลา 12.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 181 กม./ชม. ผสานการทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 5 จังหวะ พร้อมแมนนวลโหมด ซึ่งทำงานได้แม่นยำและนุ่มนวลในทุกจังหวะการเปลี่ยนเกียร์