จากการเปิดตัวบ็อกซเตอร์
เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด (The
New Boxster)ครั้งใหญ่นี้ทำให้The new Boxster คันนี้ หรือคือ Porsche รุ่นใหม่และเป็นรุ่นที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยได้มีการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานเจนีวา
มอเตอร์โชว์ ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นรถ
ไฮไลท์ของปอร์เช่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษจากทางเปอร์เช่คือการรับประกันจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีนาน
9 ปี หรือ Service
Package นาน
4 ปีถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของปอร์เช่ที่ทำการเปลี่ยนโฉมปอร์เช่
บ็อกซเตอร์ (New Boxster) ใหม่หมด เพื่อเข้าสู่เจเนอเรชั่นใหม่ ของรถยนต์เปิดประทุน
2 ที่นั่ง
โดยมีการนำเสนอถึงการปลี่ยนโฉมในครั้งนี้ที่มีการเปลี่ยนตัวถังใหม่ให้มีน้ำหนักที่เบาขึ้น
เพื่อความสมบูรณ์แบบ มีฐานล้อที่ยาวขึ้น และตัวรถที่กว้างขึ้นและมีล้อที่ใหญ่ขึ้น
อีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (electro-mechanical power steering) เพิ่มเติมส่งผลให้รถยนต์มีความเป็นสปอร์ตของเครื่องยนต์มากขึ้น
ทำให้มีความคล่องตัวในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
อีกทั้งยังทิ้งคู่แข่งในระดับเดียวกันได้อย่างเหนือชั้น ไม่เพียงเท่านี้อัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำลงถึง
15 เปอร์เซ็นต์หรือมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำกว่า 8 ลิตรต่อ 100
กิโลเมตรรูปลักษณ์ภายนอกนั้นมีการปรับแต่งแตกต่างจากเดิมไม่ว่าจะเป็นระยะยื่นจากล้อถึงปลายกันชนที่มีความสั้นลง
ตัวรถที่ราบแบนยิ่งขึ้น กระจกหน้าที่มีมุมตั้งไปทางด้านหน้ามากยิ่งขึ้น เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้รถมีความสง่างามและมีความเป็นสปอร์ตมาก ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่หมดด้วยเช่นกัน
รวมไปถึงหลังคาที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าทั้งหมดและมีน้ำหนักเบาแนวคิดภายในห้องโดยสารที่ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่นี้ส่งผลให้ผู้โดยสารมีพื้นที่มากขึ้น
อีกทั้งยังเสริมคอนโซลกลางเป็นรูปแบบใหม่ของปอร์เช่ เพื่อพัฒนาให้ภายในห้องโดยสารของรถนั้นถูกต้องตามหลักกลศาสตร์มากยิ่งขึ้นครับ ในส่วนของ
The new Boxster นั้นมีออกมา 2
รุ่นคือ ทั้งบ็อกซเตอร์ (Boxster) และบ็อกซเตอร์ เอส (Boxster S) ซึ่งทั้งสองรุ่นนั้นต่างสะท้อนให้เห็นถึงความคลาสสิคของปอร์เช่ได้เป็นอย่างดี
โดยทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6
สูบ เรียงนอน พร้อมด้วยระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงโดยตรง (Direct Petrol injection)มี ระบบการดึงพลังงานกลับคืนหรือนำพลังงานในการเบรกกลับมาใช้ใหม่ (electrical system recuperation) ระบบการจัดการความร้อน (Thermal management system) และระบบสตาร์ท/หยุดอัตโนมัติ (Auto start stop function) อีกด้วยรุ่นธรรมดาจะมีพละกำลังสูงสุดถึง
265 แรงม้า (195 กิโลวัตต์) ซึ่งมาจากเครื่องยนต์ 2.7 ลิตร และถือได้ว่ามีแรงม้าในการขับเคลื่อนมากกว่ารุ่นเดิมถึง
10 แรงม้าเลยทีเดียวครับ
โดยท่านที่กำลังมมองหาเปอร์เช่แบบรุ่นใหม่ดีไซด์สวยหรู
ก็ลองเข้าไปเลือก new Boxster ดูเลือกชมกันได้นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น